วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

เลยไป.....เชียงคาน (คลิ๊กที่ภาพถ้าต้องการเบิ่งชัด ๆ )

ปี 54 ที่ผ่านมาเกิดน้ำท่วมใหญ่กับประเทศไทย จากอยุธยา เรื่อยลงมาถึงกรุงเทพฯ บริษัทฯเราประกาศหยุดตั้งแต่ 2 พฤศจิกายน 2554 เนื่องจากน้ำท่วม ส่วนบ้านเราก็ท่วมเหมือนกัน เข้ามาในบ้านประมาณ  5 เซ็นติเมตร ส่วนทางเข้าบ้านก็เกือบถึงก้น 
ถูกจู่โจมที่ห้องน้ำก่อนอันดับแรก
ตามด้วยห้องครัว


กลางบ้านโชคดีที่เข้าแค่ 5 เซ็นติเมตร

ส่วนใหญ่จะตุนอาหารกันทุกบ้าน ทำให้เกิดวิกฤติ ข้าวยากหมากแพง... น้ำดื่ม มาม่า ข้าว ไข่ ของกระป๋องหายากมาก ๆ เราเองก็ตุนเหมือนกัน เลยไม่ค่อยเดือดร้อน

เหมือนหมู่บ้านร้าง

 อยู่บ้านเกือบ 10 วันเบื่อมาก ๆ เบื่อน้ำท่วมเป็นที่สุด เลยคิดว่าน้ำหายท่วมเมื่อไหร่ กรูจะไปเที่ยวภูเขาให้หน่ำใจเลย  จึงเข้าไปท่องเวป ต่าง ๆ และจึงตกลงได้ที่พักที่สบายดีเขาค้อ เห็นว่าที่พักน่ารักดี จึงลุยน้ำออกไปโอนเงินมัดจำ 1000 บาท จองวันที่ 1 มกราคม 2555  กะว่าจะไปแค่ 2 วัน 1 คืนก็พอ

แต่พอใกล้ ๆ วันเกิดอยากไปเที่ยวอีก จึงหาที่พักวันที่ 31 ธค.54 เพิ่มอีกวันดีกว่า  ไปไหนดีนะ ภูทับเบิกก็ไปบ่อยแล้ว ภูเรือก็ไม่มีอะไรน่าสนไปแล้วอีก น้ำหนาวก็ไปอีกตามเคย เลยกางแผนที่ดู จ.เลยไม่ไกลจากเพชรบูรณ์เท่าไหร่ เอาว๊ะไปเชียงคานดีกว่า มันกำลัง HOT HIT มากพอ ๆ กับปาย จึงลองหาที่พักดู แต่เต็มเกือบหมด จึงโทร.ไปที่บ้านพบรัก ก็เต็มอีก จึงถามว่ามีที่ไหนแนะนำไหม พอดีน้องใหมที่รับสาย บอกว่ามีบ้านป้าน้อยว่างแล้วให้เบอร์โทร.มา 083-3482824 เราจึงโทร.ไปจอง มีว่างห้องละ 500 บาทมันเป็นโฮมสเตย์ เราต้องไปนอนกับเค้านะ  แอบลุ้นเหมือนกันว่าเป็นงัยว๊ะ ต้องลอง

เชียงคานถือเป็นสวรรค์ของนักถ่ายภาพ เราเลยอยากได้เลนท์ถ่ายคนสักอัน ราคาถูก แถมคุณภาพคับแก้ว จึงหาข้อมูลสรุปได้เลนท์ Canon EF 50mm f/1.8 II ราคา 3500 บาท แต่หาซื้อไม่ได้เนื่องจากทางร้านกล้องเก็บไว้เป็นโปรโมชั่น เสียดายจัง  แต่โชคยังเข้าข้างเราอย่างจัง วันที่ 29 ธค. ไปช่วยน้องหนุ่ยขนพัดลมที่จับสลากปีใหม่ได้ และส่งหนุ่ยที่เดอะมอลส์บางแค เพื่อเจอโป้ง เราฝากให้ลองถามร้านกล้องดูว่ามีเลนท์ที่เราต้องการไหม ถ้ามีซื้อมาให้ด้วย ถามเล่น ๆ เผื่อฟลุ๊ค แต่ปรากฏว่ามีด้วยแฮะ ราคา 3395 บาทเองด้วยถูกกว่าที่เราไปถามที่บิ๊กซีอีก  555  เลยได้เลนท์ที่ต้องการมา  แถมน้องหนุ่ยก็ยังซื้อให้ฟรีด้วย น่ารักจริง ๆ เลยน้องใครก็ไม่รู้ อิ ๆ

ตี 3 ไปรับหนุ่ยที่บ้านบางหว้า  วันนี้วันดีของเราและโป้ง ระหว่างทางฟังพากษ์บอลพรีเมี่ยร์ คู่ลิเวอร์พูล-นิวคาสเซิล  ผลออกมาชนะ 3-0 อารมย์ดีก่อนไปเที่ยวสงสัยทริปนี้จะ happy ฮิวววว

ออกเดินทางมุ่งสู่ จ.เลยเพื่อไปเชียงคานกัน ระหว่างทางรถไม่ติดเลย สงสัยคนคงจะออกเดินทางไปก่อนหน้านี้แล้ว หรือไม่ก็ไม่ค่อยกลับบ้านกัน เนื่องจากกลับกันไปตอนน้ำท่วมกันซะเยอะแล้ว

7 โมงท้องเริ่มหิวแล้ว หาอาหารเช้าใส่ท้องก่อนดีกว่า มื้อนี้เป็นต้มเลือดหมู+ข้าวเปล่า  รสชาติใช้ได้ ไม่มีกลิ่นคาว ค่าเสียหาย 170 บาท



เดินทางต่อไปแบบไม่รีบ เจอป้ายเขียนไว้ว่าห้องน้ำติดแอร์ กาแฟสด ประมาณเนี้ย รีบหันหัวเข้าไปเลย ดีเหมือนกันยังไม่ได้กินกาแฟเลย ภายนอกร้านแต่งน่ารักดี ภายในร้านก็ขายอาหาร ขนม กาแฟ










จึงลองเข้าห้องน้ำ ดูสิมันติดแอร์ในห้องน้ำแน่ ๆ  มีแค่ 2 ห้องรอคิวตั้งนาน พอเข้าไป....โธ่เอ๋ย   ไม่เห็นมีแอร์ในห้องเลย แค่ห้องน้ำอยู่ในร้าน แล้วร้านก็ติดแอร์ แปลกตรงไหนฟ๊ะ แบบนี้ห้างใหน ๆ ก็โฆษณาแบบนี้ได้เหมือนกัน   ส่วนกาแฟก็ไม่อร่อย ที่นั่งก็ไม่มี สรุปเสียค่าโง่ไป 150 บาท 555



เที่ยงแล้วขับถึง อ.วังสะพุง หาอะไรทานดีกว่า ถ้ามา จ.เลยต้องกินส้มตำด้องแด้ง (เน็ตบอก)  เลยแวะร้านเนี้ย "ขนมจีนร้อนยายนำ"  มันเป็นงัยหว่าไปทานกัน ไอ้ด้องแด้งนี่





ไปถึงก็เจอเด็กน้อยนั่งอยู่ 5 คน มีผู้หญิงพามากิน นึกถึงติ๊กเข็ด ขึ้นมาจับใจเลย คำพูด คำจา มนุษย์สัมพันธ์ของเธอช่างเหมือนกัน หน้าตาก็คล้ายด้วย 555    เธอบอกว่ามาจากนวนคร พาหลาน ๆมากิน ร้านนี้อร่อยมากกกกก โดยเฉพาะตำมั่วด้องแด้ง จัดไปสิ อย่างให้เสีย











ตอนแรกสั่งขนมจีนมาทานคนละจานก่อน ป้าแม่ค้าตักแต่เส้นให้ ส่วนน้ำยา  ตักเอง พวกเราก็ชิมก่อนว่าถูกปากอันไหน  ต่างคนต่างตักมาทานจานใครจานมัน (ถ้าใครไปกรุณาจำด้วยนะว่าตักอะไรมาบ้าง หุ หุ)  และป้าก็เสริฟผักลวกให้ โห...อร่อยมาก ไอ้ฮ้อนอร่อย ไปเบิ้ลอีกจาน ส่วนเรากับหนุ่ยรอตำมั่วด้องแด้งดีกว่า  หน้าตาสุดยอด










กินคำแรก หวานหว่ะ แต่กินไปกินมา เผ็ดชิปแต่ขอบอกว่าอร่อยมาก โดยเฉพาะเส้นด้องแด้ง เหนียวหนึบ อร่อยโครต ทำไมกรุงเทพฯ ไม่มีบ้างนะ  อยากกินอีกต้องมาไกลถึงที่นี่เลย แย่จัง

เมื่ออิ่มหนำสำราญ ก็เรียกป้าเก็บตังค์ ที่นี่คิดเงินแปลกดี ป้าถามว่าตักตีนมากี่ตีน ตักเลือดมากี่ชิ้น คิดเงินตามที่ตัก 555  ไอ้โป้ง กับไอ้ฮ้อน คิดว่าตักฟรี เลยตักมาซะเยอะเชียว พอคิดตังค์เสร็จต้องบังคับไอ้ฮ้อนกินเลือดให้หมด แต่ก้อถูกดีแค่ 175 บาทเอง มีโอกาสจะไปอุดหนุนอีกนะจ๊ะป้า ชอบอ่ะโดนดี

ขับมาอีกเกือบ 2 ชั่วโมงถึง อ.เชียงคาน หาซอย 15 บ้านป้าน้อยที่พักของเรา ที่นี่แปลกมาก ซอยมี 2 ฝั่งถนน จะเรียงไปเรื่อย ๆ ทั้งสองฝั่งเป็นเลขที่เดียวกัน จะตรงกันข้ามกับถนนบ้านเรา จะเรียงเป็นเลขคู่ / เลขคี่  เจอแล้วซอย 15 ฝั่งซ้ายเลี้ยวรถเข้าไปเลย บ้านหลังไหนหว่า ป้าน้อยบอกว่ารั้วสีฟ้า หน้าบ้านมีต้นไม้เยอะ ๆ ขับไปจนทะลุอีกถนนอ้าวนี่มันถนนคนเดินแล้ว สงสัยจะผิดฝั่ง กลับรถก็ไม่ได้ จึงถอยหลังออก เจอบ้านหลังหนึ่งคล้าย ๆ เราจึงลงไปถามปรากฏว่าไม่ใช่  ผิดฝั่งชัวร์ จึงเข้าไปอีกฝั่งทีนี้ถูกแล้วหล่ะ คืนนี้้เรานอนที่นี่กัน ถึงตอนบ่าย 3 โอ้ว  เกือบ 12 ชั่วโมงสำหรับการเดินทางอันโอ้เอ้ของทริปเรา 555

หน้าบ้านทำผ้าห่มนวม
จอดรถในบ้านปลอดภัยดี










บ้านป้าน้อยใหญ่มาก กว้างเหมาะกับการทำร้านอาหาร แต่เสียว่าอยู่ในซอย ป้าพาเราไปที่ห้องพัก เป็นห้องสี่เหลียม ไม่มีทีวี มีแต่ที่นอน 4 ที่ และพัดลม ห้องน้ำรวม แต่ช่างมันอาศัยแค่นอน แค่นี้ก็พอแล้ว คืนละ 500 บาทถือว่าถูกสุด ๆ แล้ว   คุยกับป้าสักพักและแจ้งว่าพรุ่งนี้เราจะใส่บาตรข้าวเหนียวกัน ป้าก็บอกว่าได้พรุ่งนี้ เตรียมให้ พระมาประมาณ 6 โมงเช้าค่ะ   คนที่จะมาเที่ยวเชียงคานให้ครบ ต้องนอน 2 คืน กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดคือ เช้าชมทะเลหมอกที่ภูทอก  หรือตักบาตรข้าวเหนียว แต่ทริปนี้เรานอนแค่ 1 คืน และพรุ่งนี้เป็นวันขึ้นปีใหม่ เลยเลือกตักบาตรข้าวเหนียวดีกว่า  (และก็เลือกไม่ผิดจริง ๆ ด้วย)


เก็บกระเป๋าเสร็จก็ล้างหน้าล้างตา เตรียมตัวไปแก่งคุดคู้กันดีฝ่า  ถึงแก่งคุดคู้ก็ถ่ายรูป แต่ไม่ไ้ด้นั่งเรือไปเที่ยว จึงเดินหาของฝากที่ขาดไม่ได้คือ มะพร้าวแก้ว  อร่อยดี สำหรับเรา เกรด B อร่อยกว่าเกรด A ค่ะ

                                                   




ร้านต่อมา หลามหมูยอ กระปอกละ 60 บาท (แอบแพงเพราะมันนิดเดียว) ยำให้เสร็จ อร่อยมาก มิหน่าหล่ะติดรูปดาราซะเต็มร้านเลย  อีหนุ่ยกินคำแรก  ไปซื้ออีกบอกดีกว่า พอหันหลังไป สาดดด คนเป็นหนอนไปแล้ว เลยตัดใจไม่เอา มีร้านอีกเยอะรอเราอยู่



เสื้อเชียงคานเยอะมาก ๆ มีแบบให้เลือกมากมาย ได้เื้สื้อมาคนละตัว เห็นหลายร้านขายกุ้งทอดเป็นแพ ๆ กันเยอะ เลยซื้อบ้างคำแรกก็อร่อยดี  แต่ไอ้ฮ้อนกินไม่ได้ จึงซื้อปลาทอด แม่ค้าขาย 30 บาท แต่เีสียดายเงิน ช่วยกันต่อกับแม่ค้าให้ตัก 20 บาทก็พอเพราะแฟนกินคนเดียว เดี๋ยวไม่หมด แม่ค้าใจดีเลยตักให้





พอออกมานอกร้าน หือ เจือกอร่อยกว่ากุ้งอีีก ที่นี้แย่งกันกินปลากันหมดเลย  กุ้งเหลือทิ้งอ่ะ 555



ออกจากแก่งคุดคู้เย็นแล้ว กลับบ้านดีกว่าเรามีนัดเดินถนนคนเดินกัน และต้องไปถ่ายรูปที่บ้านลูกกวาดด้วย จำได้ตอนที่เข้าซอย 15 ผิด















จากบ้านมาที่ถนนคนเดินไม่ไกล พอโผล่มาที่ถนน โอ้..แม่เจ้าคนเยอะมากกกก  แต่ทำงัยได้ ทุกคนก็มีวันหยุดตรงกัน มนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเราห้ามบ่น เยอะก็ต้องทน แต่ก็เดินไม่อึดอัด อากาศไม่ร้อน แต่ก็ไ่ม่หนาว เดินสบาย ๆ











เิดินสักพัก เริ่มมืด แสงไฟสวยมาก ๆ ไอ้หนุ่ยบอก "เราพลาดแล้ว  ต้องมาแก้ตัวแล้ว มุมถ่ายรูปเยอะมาก ๆ อยากเห็นบรรยากาศ ตอนกลางวันด้วย งานนี้มีซ่อมแน่นอน"



ร้านค้าส่วนมากจะขายเสื้อกันเกือบทุกร้าน แบบก็แล้วแต่ความชอบ แต่เสียดายเราซื้อมาแล้ว เห่อใส่กันเลยคืนนี้ 555











ถ่ายรูปตามร้านดัง ๆ มากมายถ่ายไม่หวัดไม่ไหว ร้านอาหารริมโขงก้อสวย น่านั่ง ดีไปหมดโว้ย แต่ไม่ได้กิน คนเต็ม












เดินมาสักพัก แวะกินข้าวเปียกเส้นกันคนละชาม รสชาติก็ใช้ได้้ แต่เส้นสู้ป้าด้องแด้งไม่ได้เลย  คิดถึงอ่ะ










มีดนตรีให้ฟัง เปิดหมวกก็มี  การร้องเพลงหารายได้ของนักศึกษาก็มีให้ชมตลอดทางค่ะ












มาสะดุดกุ้งตัวน้อยย่าง เรียงหน้ากระดานเชียว ซื้อมาทาน อร่อยดี มััน ๆ เ็ค็ม ๆ เอาอีก อีหนุ่ยจะซื้ออีก แต่
ยังไม่่สุก แถมคนรอเยอะเลย ไปต่อดีกว่า









ปาท่องโก๋ยัดใส้  ดังเหมือนกัน แต่ไ่ม่ค่อยถูกปากเราเท่าไหร่  ออกเลี่่ยน ๆ ไม่โดนอ่ะ










มุมถ่ายรูป เก๋ ๆ ไม่ค่อยได้ถ่ายหรอก มีแต่คน จับจองกันไปหมด แต่มีอยู่คนนะ  เดินเข้าไปหลังรถ ไอ้เราก็คิดว่่าเจออะไร ที่ไหนได้ถ่ายรูปตรงท้ายรถ เอากับมันสิ   หันตูดชนกันตรูก็ยอม 555












เดินมาเรื่อย ๆ เจอกุ้งย่างอีก แต่ร้านนี้ไม่อร่อยเลยยย  อยากจะถุยทิ้ง  เวลาซื้อต้องชิมก่อนนะ ถ้าอร่อยปุ๊ปซื้อเพิ่มปั๊ปเลย เป็นประสบการณ์   และก็ซื้อข้าวเหนียวหงอกกิน  ไม่ค่อยชอบ แต่เจ้าโป้งชอบ














เดินยังไม่ครบเลยเมื่อยมาก ๆ ไอ้หนุ่ยซื้อบาบีคิวย่างมากินอีก โอ้....อิ่มแถมไม่อร่อยด้วย  55 เมื่อยเหลือเกิน เลยเดินย้อนกลับมาที่เดิม เพื่อจะไปนวดฝ่าเท้ากัน แต่คนนวดไม่มี บอกว่าจะรีบกลับไปฉลองเคาท์ดาวน์ แป่ววววว    กลับห้องพักก็ได้ฟ่ะ เมื่อยขาชะมัด

กลับถึงห้องพัก ห้องข้าง ๆ เรามีคนมาพักแล้ว พวกเรารอเค้าอาบน้ำ แม่งงงงง  อาบเอี้ยอะไรว๊ะ นานฉิปเป๋ง มันพักกันกี่คนว๊ะ กว่าจะว่างรอเป็นชั่วโมงเลย   ตอนกลางคืนเราหลับสนิท หนุ่ยนอนข้างล่างบอกว่าห้องนั้นเดินเข้าห้องน้ำกันตลอดคืน มันเป็นห่าอะไรของมันกันว๊ะ

เช้าวันที่ 1 ต้องตื่นมาใส่บาตรกัน น้ำไม่ได้อาบเลย เพราะห้องข้าง ๆ เจือกตื่นก่อนอีก จองห้องน้ำอีก  เราเลยบีบยาสีฟัน แล้วไปแปรงฟันหน้าห้องน้ำ ยัดแปรงสีฟันเข้าปากปุ๊ป  ยายคนหนึ่ง  คงได้เสียแปรงฟันเรา เปิดประตูห้องน้ำมา มือถือฝักบัว  " หนูปิดน้ำให้้หน่อย "   เราเอื้อมไปปิดคัทเอาท์ (ที่นี่เครื่องทำน้ำอุ่่นปิด-เปิดหน้าห้องน้ำ)    แปรงต่อ   ประตูเปิดอีกวุ้ย " หนูน้ำไม่ไหลนี่ " เราบ้วนยาทิ้ง ตกลงเปิดเครื่องทำน้ำอุ่นใช่ไหมค่ะ  จึงเอื่อมไปเปิดคัทเอ้าท์อีก  ยายปิดประตูต่อ   เราแปรงฟันต่อ ยาสีฟันไ่ม่มีฟองแล้ว   อีกสักพักประตูเปิดอีกแล้ว  " หนูทำไมน้ำไม่ไหล "  โอ้...แม่เจ้าวางแปรงสีฟัน เดินไปเปิดให้ยายดู เปิดแบบนี้ค่ะ โอ้ววว  สาเหตุแบบนี้กระมังที่หลาย ๆ คนเข้าห้องน้ำนาน 55 สรุปตรูแปรงฟันเปล่า ๆ เอิ๊ก ๆ

หลังจากที่ทุกคนล้างหน้า ล้างตาเสร็จ ก็ได้เวลา น้องลูกเจ้าของบ้านมาเรียก บอกว่าชุดใส่บาตรเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ  แล้วออกไปปูเสื่อรอที่ถนนเรียบร้อยแล้ว รอเราไปนั่งรอพระได้เลย

ย้ายกันเถอะเรา

เฮ้ย...คนลุกหนีไปแล้ว


อากาศยามเช้า ไม่หนาวมาก แต่เย็นสบายดี แถมมีหมอกปกคลุมด้วยอ่อน ๆ ที่ที่น้องปูเสื่อรอมีนักท่องเที่ยวนั่งรออยู่ไม่กี่คน และคนแก่นั่งเก้าอี้รออยู่ก่อน  แต่หลังจากนั่งได้สักพัก น้องลูกสาวเจ้าของบ้านก็ขี่จักรยานมาบอกว่า "พี่ สงสัยเราต้องย้ายไปใส่ข้างล่างแล้ว (คือถนนคนเดิน)  เพราะว่านักท่องเที่ยวไปรอกันที่นั่นหมด พระคงไม่ผ่านมาทางนี้แล้ว" เราจึงย้ายสถานที่กัน



โอ้....แ่ม่เจ้าพอไปถึงที่่่จะใส่บาตร แทบไม่เชื่อสายตา เลยว่านักท่องจะมากมายขนาดนี้ แถมปูเสื่่อรอกันสองฝั่่งแล้ว พวกเราเลยรีบปูเสื่อรอ บรรยากาศสวดยอดดด   คึกคักเป็นที่สุด










ชุดใส่บาตร จะมีข้าวเหนียว 1 กระติ๊บ นม 2 กล่อง ขนม 2 อัน  (ปกติที่นี่จะใส่บาตรข้าวเหนียวเพียงอย่างเดียว ส่วนกับข้าวจะตามไปใส่ที่วัด เนื่องจากชาวบ้านกลัวพระจะหนัก แต่ต่อมานักท่องเที่ยวก็ทำให้ประเพณีค่อย ๆ เปลี่ยนไป)  ยิ่งบางคนสอนให้นั่งท่องเทียวปั้นข้าวเหนียวเป็นก้อน ๆ เลยเตรียมไว้ก่อน เพราะพระจะเดินเร็วมาก วิธีนี้ก็ผิดนะ อย่าทำ...ทุเรศ  มันสกปรก แค่นี้เราก็สงสารพระแล้วหล่ะ












นั่งถ่ายรูปอย่างออกรส ออกชาติ ตื่นเต้นดี เกิดมาก็ไม่เคยใส่บาตรข้าวเหนียว กับเค้าเลย มองชุดใส่บาตรของนักท่องเทียวคนอื่น ๆ แหนะ... มีดอกไม้ด้วย เราจึงซื้อดอกไม้ มาเพิ่ม ชุดใส่บาตรของเราจึงมีสีสันขึ้น











7 โมงครึ่ง พระเริ่มออกบิณฑบาตร เราก็ใส่บาตรไป ข้าวเหนียวก็ติดมือไป รูปก็จะถ่าย สุดท้ายแกะข้าวเหนียวไม่ออกสักที่ เลยรีบกิน ๆ มัันนั่นแหละ ไม่รู้ว่าจะเป็นกระสือเปล่าว๊ะ 555




เสร็จจากใส่บาตร ก็เก็บของไปคืนที่่พัก และไปหาอาหารเช้าทานกัน














คนเยอะทุกร้าน บางร้านที่นั่งว่าง แต่พอเข้าไปจะนั่งแต่นั่งไม่ได้ เนื่องจากรอกรุ๊ปทัวร์ลง ปัดโธ่...ร้านดัง ๆ ก็เงี้ยใคร ๆ ก็อยากทาน  เลยมาทานที่ร้านข้าวเปียกเส้นซอย 10 คนเยอะมากกกกก  แต่ก็ต้องรอ เพราะคนเยอะกว่าร้าน




ข้าวเปียกเส้นร้านนี้ ขึ้นชื่อแล้วแต่ดวง เพราะแต่ละชาม จะได้มากบ้าง น้อยบ้าง ตามแต่แม่้ค้าจะตักเนื้อขนมจีนไป  ถ้าไปทานให้สั่งพิเศษ หรือเบิ้ลไปเลย จะได้อิ่ม   ไม่งั้นรอนานนนนน



ต่อจากข้าวเปียกเส้น ก็สั่งไข่กะทะมาทาน ไม่ค่อยอร่อย สู้ที่อุบลไม่ได้  ถ้าอยากรู้อร่อยอย่างไร  เดือน 5 มีีนััดไปทานกัน 555

ทานอาหารเสร็จ (ไม่อิ่ม) จะหาทานร้านอื่นอีก คนก็เยอะ เฮ้อ  ...ไว้แก้ตัวครั้งหน้าก็แล้วกัน ตอนนี้เก็บของออกจากที่พักไปเขาค้อกันต่อดีกว่า

ออกจากเชียงคาน ประมาณ 10 โมงเช้า มุ่งหน้าสู่เขาค้อ ระหว่างทางก็หาสวนส้มสามตม ที่ำอ.ภูหลวง (เคยมาเก็บส้มโชกุนที่สวนนี้อร่อยโครต ๆ แต่หาไ่ม่เจอ สงสัยเลิกปลูกไปแล้วมั๊งจึงล้มเลิกความตั้งใจ)
ไปกินขนมจีนหล่มเก่าดีกว่าเพราะจะถึงอาหารเที่ยงแล้ว

ถึงหล่่มเก่าต้องไม่พลาดขนมจีน เราเลือกร้านนี้เพราะชื่อเหมือนพ่อเรา 555  (คิดผิดอีกแล้วตรู)  ร้านคนเยอะมาก ๆ ต้องบริการตัวเอง ถึงจะได้กิน ร้านโชว์ว่าขนมจีน 7 สี พอมาเสริฟ มีแค่ 2 สีเอง หุ หุ  น้ำยาีมีให้ 3 หม้อ แล้วแต่คนชอบ  กินไปกินมา เฮ้ย...ร้านนี้คุ้น ๆ เนอะ โธ่เอ๋ย...เราเคยมากินแล้วนี่ ให้ตายเถอะไม่เข็ด 555    ไม่ต้องบอก ต้องลองไปกินเอง หุ หุ












ท่าประจำสำหรับบ้านเรา 55











หลังทานเสร็จก็มุ่งหน้าสู่เขาค้อ เพื่อไปพักที่ สบายดีเขาค้อ  ทางไปก็ไม่ยาก ถึงที่พักแล้ว ที่นี่สวยดี เจ้าของแนะนำให้อาบน้ำก่อน เพราะตกดึกน้ำอาจไม่ไหล เพราะคนจะอาบพร้อม ๆ กัน จะดึงน้ำกันใช้  มีทีวีให้ดู ก็นอนดู และตกเย็นก็ออกไปทานอาหารเย็นกัน



วิวหน้าบ้านพัก สวย ๆ





อาหารเย็นก็อร่อยดี โดยเฉพาะไก่ทอด จัดมา 2 ต้มแซบก็อร่อย เปรี้ยวดี  นั่งไปนั่งมา เริ่มหนาว แต่บรรยากาศดีสุด ๆ นั่งชิว ๆ สบาย ๆ แสงไฟในร้านสวยงาม ตกแต่งได้ดีเลยทีเดียว











กลับจากอาหารค่ำ ก็เข้าบ้านพัก คืนนี้เรามีนัดกันจะเขียนหนังสือบนอากาศกัน มีแต่เราที่เอาไฟฉายมา ส่วนเจ้าโป้งเอามาแต่ไม่มีถ่าน จึงมีไฟฉายแค่อันเดียว  การเขียนเลยยาก จึงต้องแบ่งไฟฉายกันเขียน แต่ก็สนุกดี  มาดูกันว่าฝีมือเป็นอย่างไร  กว่าจะออกมาเป็นภาษา เล่นเอาหัวเราะท้องแข็งไปเหมือนกัน










เช้าแล้วไปทานอาหารเช้ากัน..... อากาศยามเช้าไม่ค่อยหนาว..ไม่รู้เป็นงัยไปเที่ยวเหนือทีไร ที่ไหนว่าหนาว เจอเราเข้าไป อุณหภูมิสูงตลอดเฮ้ออ




อาหารเช้าไม่ได้หรูหราเหมือนโรงแรม มีเพียงข้าวต้ม กาแฟสด ปาท่องโก๋ กล้้วย ขนมปัง แต่ก็อร่อยดี ซัดข้าวต้มไป 2 ชาม กาแฟสด 2 ถ้วย ทานเสร็จก็ถ่ายรูปสวยดีค่ะ
















หลังอาหารเช้าก็เก็บของกลับ กรุงเทพฯ ดีกว่า ถ้ามีโอกาสจะมาพักอีก

ใครที่ลงจากเพชรบูรณ์ทุกท่านต้องผ่าน อ.วิเชียรบุรี  แน่นอนที่สุดขาดไม่ได้คือแวะทานไก่ย่างที่นี่ ของเค้าดีจริง  วันนี้เราก็ไม่พลาด เอาร้านไหนดีหว่า  ตาแป๊ะ ทานบ่อย บัวตองก็ไม่น้อยหน้า ที่กล่าวมาก็งั้น ๆ วันนี้เลยขอลองเจ้าใหม่ดีกว่าเผื่อจะดีกว่า หรือไ่ม่ก้อแย่กว่าเดิม  มาลองทานกันจ้า







คนเยอะมาก ๆิ รอนานสุด ๆ   โต๊ะข้าง ๆ ทานไก่กันน่าอร่อยมากกกก ใช้มือหยิบกันหนุบหนับ เผลอแป๊บเดียวเหลือแต่จาน  แบบนี้แสดงว่าอร่อย   แล้วก็ไม่ผิดหวัง ไก่ร้านเจ้าสัวนี้แห้งดีค่ะ  อร่อยมาก  น้ำจิ้มก็ใช้ได้ แถมต้มแซ่บ ก็อร่อยถูกใจ  แต่เสียที่ ส้มตำไม่อร่อยเลย  ครั้งหน้าสั่งแต่ไก่กับต้มแซ่บก็สุดยอดแล้วจ้า

ขากลับรถเยอะ มีติดบ้างนิดหน่อย มีป้ายบอกว่าทางลัดไปกรุงเทพฯ จึงลองไปดู (เหมือนหลอกให้ไปเราว่ามันติดกว่าเดิมใคร ๆ ก็แห่ไป เราว่าไปเส้นปกติแหละดีที่สุด)  แถมออกเส้นทางผิดอีกแล้วครับท่าน ไปโผล่ดอนเมืองอีกแล้ว.... ใ้ห้ตายสิ ไปไหนไปได้ไม่หลง กลับกรุงเทพฯ ทีไรหลงทุกที 555  เลยขึ้นทางด่วนกลับ สรุปถึงบ้านประมาณ 1 ทุ่ม โดยสวัสดิภาพ แล้วเจอกันใหม่ทริปหน้า ครั้งนี้บินไปอุบล จองตั๋วโปรโมชั่นของหางแดงไว้เมื่อปีที่แล้ว    ขณะที่เขียนบล็อคนี้เราก็ได้ลาออกจากงานแล้ว บางที ทริปต่อไปสำหรับเราอาจเป็นเดือนเมษายนนี้...มาขั้นก่อนก็ได้ ตอนนี้ยังไม่รู้ แล้วเจอกันตอนต่อไปค่ะ   บายยยยย

สรุุปค่าใช้จ่าย

อาหารเช้า (ต้มเลือดหมู) = 170 กาแฟห้องน้ำติดแอร์ = 150 ตำมั่วด้องแด้ง+ขนมจีน = 175 ค่าจอดรถแก่งคุดคู้ = 20 ของกินแก่งคุดคู้(หมูยอ ,กุ้งทอด,ปลาทอด,น้ำดื่ม) =125 ข้าวเปียกเส้น = 80 ขนมถนนคนเดิน(กุ้ง ,น้ำ, บาบีคิว) =  70 ปาท่องโก๋ = 30 ชุดตักบาตร = 200 ดอกไม้ = 40 อาหารเช้า(ข้าวเปียกเ้ส้น,ไข่กะทะ,กาแฟ) = 265 เครื่องดื่ม (โค้ก,แบรนด์) = 114 ขนมจีน 2 สี = 265 มะขามหวาน+หมู = 150 อาหารเย็น(สบายดีเขาค้อ) = 800 กาแฟสด (ปั๊มน้ำมัน) = 95 ไก่ย่างวิเชียรบุีรี = 360 ค่าน้ำมันรถ =  2850   ค่าห้องพักป้าน้อย = 500 ค่าที่พักสบายดีเขาค้อ = 2000  รวม 8459  ระยะทาง1341 กิโลเมตร